การนอนหลับที่เต็มอิ่มส่งผลดีต่อสุขภาพของเรา ที่นอนที่ไม่ดีหรือเสื่อมสภาพไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายเวลานอนเท่านั้น แต่ยังทำให้เรานอนหลับๆตื่นๆ ส่งผลให้คุณภาพการนอนของเราลดลงไป แทนที่เราจะได้พักผ่อนได้เต็มที่กลับเป็นว่าได้อาการปวดเมื่อยและการนอนไม่พอกลับมาแทน ดังนั้นที่นอนควรจะมีการเปลี่ยนเมื่อเสื่อมสภาพ แต่หลายท่านคงอยากรู้ว่า ที่จริงแล้ว เราควรเปลี่ยนที่นอนทุกๆกี่ปี? เราอาจไม่จำเป็นต้องรอให้ที่นอนเสื่อมสภาพและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราก่อนค่อยเปลี่ยน แต่เพียงแค่เห็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพก็สมควรเปลี่ยนได้แล้ว
เราควรเปลี่ยนที่นอนทุกๆกี่ปี?
ที่นอนไม่มีวันหมดอายุที่แน่นอนเหมือนอาหาร ไม่ใช่ในแบบที่วันหนึ่งใช้การได้ดี มาอีกวันเสื่อมสภาพใช้การไม่ได้เลย เหมือนจานชามที่แตก หรือ แบตเตอรี่ที่หมดอายุ แต่ที่นอนเป็นของใช้ประเภทที่ค่อยๆเสื่อมลงไปวันละนิด เราแทบไม่ทันสังเกตว่ามันได้เสื่อมลงไปมากแล้วจนกระทั่งมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา
ที่นอนเก่าเสื่อมสภาพที่ลูกค้าฝากทิ้ง
จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาพบว่า การเปลี่ยนที่นอนที่มีอายุมากกว่า 5 ปี ขึ้นไป ช่วยให้คุณภาพการนอนของเราดีขึ้นและทำให้เราปวดหลังลดลง อย่างไรก็ตามไม่มีการวิจัยที่ชี้ชัดลงไปว่าเราควรเปลี่ยนที่นอนทุกๆกี่ปี แต่ส่วนใหญ่แนะนำว่าเราควรเปลี่ยนที่นอนทุกๆ 7 ปี ซึ่งต่างจากผลวิจัยที่พบว่า คนส่วนใหญ่นิยมใช้ที่นอนนาน10 ปี ขึ้นไป ซึ่งสะท้อนว่า มีคนจำนวนมากที่ยังคงใช้งานที่นอนที่เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะที่นอนก็เหมือนกับของใช้อื่นๆ คนส่วนใหญ่มักจดจำวันที่ซื้อที่แน่นอนไม่ได้ เผลอๆเราก็ใช้งานที่นอนไปนานแล้ว ที่นอนของเราแท้จริงแล้วอาจมีอายุมากกว่าที่เราคิด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของที่นอน
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำว่าเราควรเปลี่ยนที่นอนทุกๆ 7 ปี (ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของที่นอนโดยรวม) แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆอีกที่เราควรพิจารณาร่วมด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ที่นอนแต่ละชิ้นเสื่อมสภาพเร็วหรือช้าแตกต่างกันไป ปัจจัยที่ว่านี้ได้แก่
วัสดุที่ใช้ทำที่นอน
ที่นอนที่ใช้วัสดุที่คุณภาพดีและทนทาน ก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนานตามไปด้วย วัสดุที่ทนทานได้แก่ ยางพารา ฟองน้ำอัด เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม ที่นอนฟองน้ำอัด ที่นอนน้องๆยางพารา (แถมราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง)
ความถี่ในการใช้งาน
ที่นอนที่ใช้งานทุกวันมักเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่นอนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเป็นธรรมดา ดังนั้นเมื่อพูดถึงการนับอายุของที่นอน เราควรนับตั้งแต่วันที่เราเริ่มใช้งานมากกว่าวันที่ผลิตหรือวันที่ออกจากโรงงาน คำกล่าวที่ว่าที่นอนที่เก็บที่ร้านขายที่นอนนานๆไม่ควรซื้อเพราะที่นอนเริ่มเสื่อมสภาพแล้วจึงถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ถูกเพียงครึ่งเดียวในกรณีที่นอนที่เก็บที่ร้านค้านาน 10 ปี หรือที่นอนใยมะพร้าวฟองน้ำที่ค้างสต็อกนานๆ (มันต้องเก็บนานจริงๆ)
ปัจจัยนี้เห็นได้ชัดในกรณีของผู้ป่วยติดเตียง ทำไมที่นอนบางรุ่นถึงเสื่อมเร็วกว่าที่โฆษณา เพราะที่นอนส่วนใหญ่คำนวนจากจำนวนชม.ปกติที่คนเรานอน แต่ผู้ป่วยติดเตียงใช้เวลาบนที่นอนมากกว่าคนปกติ เท่ากับอัตราการเสื่อมของที่นอนคูณ 2 เท่า
น้ำหนักของผู้นอน
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากควรนอนบนที่นอนที่มีความแน่นเฟิร์มเพราะอะไร? เพราะที่นอนที่มีความแน่นและเฟิร์มรองรับน้ำหนักได้ดีกว่าที่นอนที่มีความนุ่มเด้ง น้ำหนักที่มากนี้ไม่ทำให้ที่นอนที่มีความแน่นเฟิร์มเสื่อมสภาพเร็วเท่ากับที่นอนที่มีความนุ่มเด้ง ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ที่มีน้ำหนักมากและต้องการซื้อที่นอนที่ใช้งานได้นานๆควรเลือกที่นอนฟองน้ำอัด หรือ ที่นอนยางพารา มากกว่าที่นอนสปริง
การดูแลรักษา
การดูแลรักษาที่นอนช่วยให้ที่นอนใช้งานได้นานขึ้น การดูแลรักษาในที่นี้เช่น
- พลิกที่นอนทุกๆ 2 เดือน (ในกรณีที่เป็นที่นอนที่แนะนำให้พลิกนอนทั้ง 2 ด้าน)
- เมื่อน้ำหรือของเหลวหกใส่ควรเช็ดออกทันที ของเหลวที่ซึมเข้าไปในที่นอนจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และทำให้ที่นอนอับชื้น
ที่นอนที่ของเหลวซึมเข้าไปนานไปเป็นคราบและส่งผลต่อวัสดุในที่นอน
- ควรใช้ผ้ารองกันเปื้อน หรือผ้าคลุมที่นอนกันน้ำ หรือในบางกรณีอาจเลือกใช้เป็นที่นอนหุ้มหนัง เพื่อช่วยปกป้องที่นอนทำให้ที่นอนใช้งานได้นานขึ้น (อ่านเพิ่มเติมที่นอนหุ้มหนังดีอย่างไร)
หนัง PVC ช่วยปกป้องที่นอนเป็นอย่างดี รูปนี้หนังแตกลายเตรียมเปลี่ยน
- หมั่นทำความสะอาดห้องนอนไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของแมลงและเชื้อโรค
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราควรเปลี่ยนที่นอน
- คุณรู้สึกว่านอนบนโซฟาหรือนอนที่โรงแรมสบายกว่านอนที่บ้าน
- มันตื่นขึ้นกลางดึกเพราะปวดหลัง ปวดเอว หรือเกิดอาการเหน็บชาตามจุดต่างๆ
- สังเกตุได้ว่าที่นอนยุบเป็นแอ่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำหนักกดทับมากๆ เช่นบริเวณสะโพก
- สังเกตเห็นรอยฉีกขาดที่ผ้า แสดงว่าผ้าหุ้มที่นอนเริ่มเปื่อย
ตัวอย่างผ้าหุ้มที่นอนที่เปื่อยหมดสภาพ
ที่นอนชิ้นนี้ไส้ทะลักแล้ว ควรเปลี่ยนโดยด่วน
- หากเป็นที่นอนสปริง พบว่าเกิดเสียงรบกวนทุกการขยับเคลื่อนไหว
ลักษณะที่นอนสปริงที่เสื่อมสภาพ
- รู้สึกเหมือนเป็นภูมิแพ้ จามและมีน้ำมูกไหลมากกว่าปกติ
ที่นอนใยมะพร้าวเมื่อเสื่อมสภาพจะเป็นฝุ่นผงก่อให้เกิดภูมิแพ้
สรุป
โดยเฉลี่ยที่นอนแนะนำให้เปลี่ยนเมื่อใช้งานไปแล้วประมาณ 7 ปี นับเป็นค่าเฉลี่ยของอายุที่นอนโดยรวม แต่เมื่อลงไปดูจริงๆ พบว่าอายุการใช้งานของที่นอนแต่ละชิ้นแตกต่างกันตามปัจจัยอื่นๆ เช่น ความถี่ในการใช้งาน วัสดุที่ใช้ทำ ฯลฯ ดังนั้น การเปลี่ยนที่นอนจึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ใช้งาน คนจำนวนมากมักต้องการประหยัดจึงใช้งานที่นอนไปจนถึงที่สุดอายุของที่นอนที่จะสามารถใช้งานได้ก่อนจะเปลี่ยน นั่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากที่นอนนั้นเริ่มส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณ เราแนะนำให้รีบเปลี่ยนโดยทันที
ที่นอนของคุณเสื่อมสภาพหรือยัง? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเปลี่ยนที่นอนใหม่ สั่งที่นอนกับเราสิ เรามีบริการขนทิ้งที่นอนเก่าฟรีไม่คิดเงิน
ดูที่นอนทั้งหมดของ STL FURNITURE
บทความอื่นๆช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อที่นอน
ข้อดี-ข้อเสีย ของ 6 ประเภทที่นอน แบบละเอียด อัพเดทปี 2023
ที่นอนฟองน้ำอัด ที่นอนน้องๆยางพารา (แถมราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง)
5 ข้อที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่นอนยางพารา
ที่นอนยาง PE ที่นอนขั้นเทพที่แนะนำให้ใช้อย่างยิ่ง (สำหรับคนงบจำกัด)
ที่นอนใยมะพร้าวดีหรือไม่ดี? ควรเลือกใช้ไหม
อ้างอิง